วันที่ 3 เมษายน 2568 เครือข่ายต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยองค์กรพัฒนาเอกชนกว่า 10 องค์กร ได้ร่วมกันยื่น “ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว ฉบับประชาชน” ต่อรัฐสภา
กว่า 18 ปีที่ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 มีผลบังคับใช้ แต่เนื้อหายังคงเน้น “การรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัว” มากกว่าการคุ้มครองผู้เสียหาย การเปิดช่องให้ไกล่เกลี่ยโดยไม่มีมาตรการป้องกันที่รัดกุม ทำให้ผู้เสียหายจำนวนมากต้องเผชิญกับความรุนแรงซ้ำซ้อนจากกระบวนการยุติธรรมเอง
SHero ในฐานะหนึ่งในผู้ร่วมผลักดันหลักของร่างกฎหมายฉบับนี้ ขอประกาศจุดยืนร่วมกับเครือข่ายว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะมี กฎหมายที่ยึดผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง และให้ความคุ้มครองที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
ร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอแนวทางการปฏิรูปที่สำคัญหลายประการ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชน และหลักการในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้แก่
ยุติการไกล่เกลี่ยที่ไม่ปลอดภัยและไม่สมัครใจ
นำการกระทำความรุนแรงที่เข้าข่ายอาญาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา
มีมาตรการคุ้มครองผู้เสียหายอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถบังคับใช้ได้
ใช้แนวทางสหวิชาชีพในการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
จัดให้มีโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้กระทำควบคู่กับการดำเนินคดี
ร่าง พ.ร.บ. ฉบับประชาชนนี้ไม่เพียงเสนอการแก้ไขกฎหมายเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ระบบ และทัศนคติในสังคม ที่ต้องให้ความสำคัญกับสิทธิ ความปลอดภัย และศักดิ์ศรีของผู้เสียหายเป็นอันดับแรก
เราขอเชิญชวนทุกคนร่วมติดตามและสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ในขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะต้องมีการรวบรวมรายชื่อประชาชนไม่น้อยกว่า 10,000 รายชื่อ เพื่อผลักดันให้ร่างเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาอย่างเป็นทางการ
ขั้นตอนต่อไปของร่าง พ.ร.บ. ฉบับประชาชน
หลังจากการยื่นร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 กระบวนการตามกฎหมายยังต้องดำเนินต่อไปตามขั้นตอน ดังนี้:
1. ตรวจสอบความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ (ภายใน 15 วัน):ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาว่าร่าง พ.ร.บ. ฉบับประชาชนนี้ ขัดหรือไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในหมวดว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน และหน้าที่ของรัฐ หากไม่มีข้อขัดข้อง จะมีหนังสือแจ้งผลให้ผู้ริเริ่มดำเนินการต่อไป
2. เริ่มรณรงค์รวบรวมรายชื่อประชาชน 10,000 รายชื่อ:หากผ่านขั้นตอนแรก SHero และเครือข่ายจะเริ่ม การรณรงค์รวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 10,000 รายชื่อ ตาม พ.ร.บ. การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ. 2564 โดยตั้งเป้าหมายให้เสร็จสิ้น ภายในเดือนมิถุนายน 2568 หรือเร็วกว่านั้นหากเป็นไปได้
3. ยื่นร่างพร้อมรายชื่อ 10,000 รายชื่อกลับเข้าสู่สภา:เมื่อรวบรวมรายชื่อครบถ้วน จะมีการยื่นกลับเข้าสภาอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบรายชื่อ
4. ตรวจสอบรายชื่อ (ภายในประมาณ 30 วัน):เจ้าหน้าที่ของรัฐสภาจะดำเนินการ ตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อ หากครบถ้วนตามกฎหมาย จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป
5. เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผ่านเว็บไซต์ของรัฐสภา:หากรายชื่อผ่านการตรวจสอบครบถ้วน ร่างกฎหมายจะถูก นำขึ้นเว็บไซต์รัฐสภาเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่
6. บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร:เมื่อครบทุกขั้นตอน ร่าง พ.ร.บ. ฉบับประชาชนจะถูกบรรจุใน คิววาระการประชุมของสภาฯ ร่วมเดินไปกับเรา
ติดตามความเคลื่อนไหวของ SHero ได้ทุกช่องทางเพื่อร่วมขับเคลื่อนความยุติธรรมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน
@sherothailand
Thank you for visiting SHero Thailand.
As we mark our 9th year as a 100% volunteer-run organization, we have reached our operational limits. We’re actively seeking additional resources to ensure sustainability and are currently focusing on supporting our existing clients.
At this time, we are unable to offer active responses or accept new legal consultation requests due to our limited capacity.
In Case of Emergencies:
Thai Police: Call 191
Tourist Police: Call 1155 (available 24/7 and offer English-speaking support)
For Further Assistance:
Women and Men Progressive Movement
Email: info@wmp.or.th
Phone: 02-513-2889
Website: https://www.wmp.or.th/contact
We sincerely appreciate your understanding and are committed to resuming our services as soon as possible.
Warm regards,
SHero Team