ขอคุ้มครองสวัสดิภาพ ให้ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากครอบครัวหรือความรุนแรงในคู่รัก : ทำได้ไม่ยาก และสามารถขอออนไลน์

ขอคุ้มครองสวัสดิภาพ ให้ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากครอบครัวหรือความรุนแรงในคู่รัก : ทำได้ไม่ยาก และสามารถขอออนไลน์

ขอคุ้มครองสวัสดิภาพ ให้ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากครอบครัวหรือความรุนแรงในคู่รัก : ทำได้ไม่ยาก และสามารถขอออนไลน์

 

เด็กหรือผู้ใหญ่ที่ประสบกับความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ หรือคุกคามด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งผู้กระทำเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน รวมไปถึงอดีตคู่สมรส แฟน คู่รัก หรือญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ในครอบครัว ล้วนมีสิทธิในการขอ “คำสั่งคุ้มครอง” จากศาลเพื่อความปลอดภัยต่อกายและใจของผู้ถูกกระทำได้

คำสั่งคุ้มครองคืออะไร

คำสั่งที่ออกโดยศาลเยาวชนและครอบครัวเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของเด็กหรือบุคคลในครอบครัวที่ถูกกระทำความรุนแรงโดยบุคคลในครอบครัวเดียวกัน

ใครมีสิทธิขอคำสั่งคุ้มครองได้

  1. ผู้ที่ถูกกระทำความรุนแรงจากบุคคลในครอบครัว
  2. ผู้ปกครองของเด็กที่ถูกกระทำความรุนแรง (กรณีที่เด็กมีอายุต่ำกว่า 18 ปี)
  3. ผู้กระทำการแทนบุคคลข้อ 1 และ 2 ในกรณีที่ไม่สามารถร้องขอได้เอง ได้แก่ญาติ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ พนักงานเจ้าหน้าที่ องค์การซึ่งมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย รวมถึงเพื่อนบ้านที่กระทำเพื่อประโยชน์ของผู้เสียหายด้วย

ยื่นคำร้องได้ที่ไหน เวลาไหน

  1. ศาลที่ผู้เสียหายอาศัยอยู่จริง หรือผู้เสียหายมีภูมิลำเนาอยู่ตามทะเบียนบ้าน
  2. ศาลที่เกิดเหตุความรุนแรงในครอบครัว
  3.   ยื่นผ่านระบบออนไลน์ CIOS (recommended) คลิปวิดีโอประกอบได้ที่นี่

ยื่นคำร้องที่ศาล > เวลาราชการ

ยื่นผ่านระบบออนไลน์ > 24 ชม. หากยื่นคำร้องเกินเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้ในเวลา 8.30 น. ของวันถัดไปหรือวันเปิดทำการศาลปกติ

เอกสารหรือหลักฐานประกอบการยื่นคำร้อง

  1. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้เสียหาย
  2.  สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ยื่นคำร้อง (กรณีเป็นคนละคนกับผู้เสียหาย)
  3. หลักฐานอื่นที่ควรมีเพื่อประโยชน์แก่การดำเนินคดี เช่น
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้กระทำความรุนแรง
  • ภาพถ่ายบาดแผล ภาพจาก CCTV หรือคลิปวิดีโอที่ถูกทำร้ายร่างกาย
  • ใบรับรองแพทย์ของผู้เสียหาย

การเขียนคำร้องในคำสั่งขอคุ้มครอง

หลังจากเขียนพฤติการณ์ที่เกิดเหตุแล้ว ผู้ยื่นคำร้องจำเป็นต้องระบุคำขอต่าง ๆ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้เสียหายหรือสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปบำบัด เช่น

  • ห้ามผู้ก่อเหตุเข้าใกล้ผู้เสียหายในระยะ 500 เมตร
  • ห้ามผู้ก่อเหตุเข้ามาบริเวณบ้านหรือที่ทำงานของผู้เสียหาย
  • ห้ามผู้ก่อเหตุยั่วยุ หรือกระทำการใดเพื่อก่อให้เกิดความรุนแรง
  • ให้ผู้ก่อเหตุเข้ารับการบำบัดอาการติดยาเสพติด หรือเข้าพบจิตแพทย์

การยื่นคำร้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัว

ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องได้ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวที่ผู้ถูกกระทำ

1.) มีถิ่นที่อยู่ หรือ 2.) มีภูมิลำเนา 3.) ที่มีมูลคดีเกิดขึ้น (ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 172)

เช่น ผู้เสียหายมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครปฐม แต่ถูกแฟนทำร้ายที่กรุงเทพมหานคร ดังนั้น หากผู้เสียหายประสงค์จะไปยื่นคำร้องที่ศาล ฯ ผู้เสียหายสามารถยื่นคำร้องได้ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐมและศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กรุงเทพมหานครเป็นต้น

ขั้นตอนการยื่นคำร้องที่ศาล มีดังนี้

          เขียนคำร้องในแบบฟอร์ม คส.1 (หรือยื่นคำร้องกรณีฉุกเฉินประกอบ)และแนบคำร้องพร้อมหลักฐานที่มีให้แก่นิติกรศาล

  • ยื่นคำร้องด้วยวาจาต่อศาล

          ติดต่อนิติกรศาลเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพด้วยวาจา

          นิติกรศาลจะทำการจดบันทึกลงในแบบฟอร์ม คส.2

ขั้นตอนการยื่นคำร้องผ่านระบบ CIOS

การยื่นคำร้องในระบบจะแบ่งออกเป็นการยื่นคําร้องขอในกรณีปกติ และการยื่นคําร้องขอในเหตุฉุกเฉิน (เฉพาะกรณีผู้ถูกกล่าวหา (ผู้ก่อเหตุ) มีพฤติการณ์กระทำความรุนแรงในครอบครัว หรือปฏิบัติโดยมิชอบต่อเด็กที่อยู่ในความปกครองและมีพฤติการณ์น่าจะก่อเหตุดังกล่าวอีก) กรณีนี้ ศาลจะพิจารณาและสอบถามผู้เสียหายเพียงฝ่ายเดียวก่อน และมีคำสั่งภายในวันที่ยื่นคำร้องฉุกเฉิน

ระบบจะกําหนดให้ผู้ร้องหรือผู้กระทําการแทนดําเนินการกรอกข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียหาย ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุ พฤติการณ์แห่งการกระทํา และความประสงค์ของผู้เสียหายที่ต้องการให้ศาลมีคําสั่งเข้าสู่ระบบผ่านเว็บไซต์ CIOS

  1. ยืนยันตัวตนผ่าน ThaID หรือ COJ Connect
  2. เมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว ดำเนินขั้นตอนต่อไปนี้
  3. เมื่อยื่นคำร้องเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคําร้องขอคุ้มครองสวัสดิภาพว่าถูกต้องหรือไม่ ระบบจะแจ้งสถานะคําร้องขอในกรณีต่างๆ คือ สถานะยกเลิกรายการ เนื่องจากคําร้องขอที่ยื่นไม่ถูกต้องหรือข้อมูลไม่ครบถ้วน ส่วนในกรณีที่ศาลรับคําร้องขอ ระบบจะแจ้งกําหนดนัดไต่สวนซึ่งเป็นกรณีปกติหรือกรณีมีเหตุฉุกเฉิน รวมถึงแจ้งสถานะกรณีศาลไม่รับคําร้องขอหรือยกคําร้องขอ

หลังจากยื่นคำร้องเรียบร้อยแล้ว ศาลจะต้องไต่สวนโดยไม่ชักช้า พึงกำหนดนัดไม่เกิน 15 วันตามคำแนะนำของประธานศาลฎีกาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2567 หากเป็นกรณีฉุกเฉิน ศาลอาจมีคำสั่งภายในวันเดียวกันกับวันที่มีการร้องขอ*

นอกจากนี้ ศาลอาจใช้วิธีการเพื่อลดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ร้องกับผู้ถูกกล่าวหา จากนั้น ศาลจะออกคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพตามที่ร้องขอ และมีการแจ้งคำสั่งไปยังเจ้าพนักงานหรือตำรวจที่ผู้ถูกกล่าวหามีถิ่นที่อยู่ให้รับทราบ รวมถึงอาจมีคำสั่งให้นักสังคมสงเคราะห์หรือเจ้าพนักงานอื่นติดตามและกำหนดเวลารายงานให้ศาลทราบด้วย โดยคำสั่งดังกล่าวต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน หากผู้ถูกกล่าวหาฝ่าฝืนคำสั่ง ศาลสามารถออกหมายจับมาขังจนกว่าจะปฏิบัติตาม ไม่เกิน 1 เดือน

เมื่อผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ร้องได้ปฏิบัติตามคำสั่งครบถ้วนแล้ว คำสั่งดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุด ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ร้องมีสิทธิขอให้ศาลมีคำสั่งยุติการคุ้มครองก่อนครบกำหนดได้

Tips: หลังได้คำสั่งมาแล้ว ควรเก็บสำเนาเอกสารไว้เสมอ

คลิปวิดีโอเรื่องคุ้มครองสวัสดิภาพ: COJ Podcast Special คุ้มครองสวัสดิภาพ ONLINE

แนวปฏิบัติเรื่องการขอคำสั่งคุ้มครอง 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อการช่วยเหลือทางกฎหมาย

  • สำนักงานอัยการสูงสุด: สายด่วนปรึกษาปัญหากฎหมาย โทร. 1157 วันจันทร์ – เสาร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
  • ศูนย์บริการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน โทร. 02-1422034

ติดตามข่าวสารและองค์ความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศทุกช่องทาง Facebook X หรือ Instagram ได้ที่ @sherothailand